วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2551

แผนคุ้มครองสุขภาพ ..Combo Shield by AIA

ใช้ชีวิตอย่างไร้กังวลดั่งเกราะคุ้มกันชีวิตคุณ
กับแผนคุ้มครองสุขภาพ Combo Shield

มั่นใจกับแผนคุ้มครองของเรา คุ้มครองสูงสุดถึง 2,500,000 - 5,000,000 บาท เบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 3,133 - 5971 บาทต่อปี เท่านั้น
  • เลือกชำระแบบผ่อนชำระได้
  • ชดเชยค่ารักษาสูงสุดถึง 5,000-10,000 บาทต่อวัน
  • คุ้มครองชีวิต ครอบคลุมทั้ง เหตุปกติ การเ็จ็บป่วย อุบัติเหตุและโรคร้ายแรง
  • เบี้ยประกันสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้

    ติดต่อเราได้ที่
    Email : lifeplan.4you@gmail.com
    Hot Line : 0817816950

Company Logos - Top Logo Design Company Review
Company Logos

ตรวจเลือด หามะเร็งได้จริงหรือ?


ตรวจเลือด หามะเร็งได้จริงหรือ?

ผศ.พญ.ศันสนีย์ เสนะวงษ์

ภาควิชาวิทยาภูมิคุ้มกัน

ในทุกวันนี้ เรามักจะได้ยินกันว่าการตรวจสุขภาพประจำปีของโปรแกรมต่างๆ จะมีการตรวจเลือดหามะเร็งกันเป็นประจำ และนอกจากนี้ บางครั้ง เวลาที่มีความผิดปกติ เช่น เลือดออก หรือมีก้อน และสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งหรือไม่ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะถามแพทย์ที่ดูแลว่าตรวจเลือดดูว่าเป็นมะเร็งได้หรือไม่ เพราะดูเหมือนจะเป็นวิธีการที่น่าจะสะดวก หรือ เจ็บตัวน้อยที่สุด ... ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถตรวจเลือดหามะเร็งได้หรือไม่?

ตรวจเลือดหามะเร็ง เขาตรวจหาอะไรกัน

การตรวจเลือดชนิดต่างๆ เพื่อหามะเร็ง เช่น ตรวจ CEA, PSA, CA 15-3, Alpha-fetoprotein (AFP) ฯลฯ ที่เราได้ยินจากโปรแกรมการตรวจเลือดต่างๆนั้น เป็นการตรวจหา Tumor marker (สารบ่งชี้มะเร็ง)

Tumor markers (สารบ่งชี้มะเร็ง) คืออะไร

ในภาวะที่เซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ เกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมะเร็ง กลไกควบคุมการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของเซลล์จะเสียไป ทำให้เซลล์นั้นๆแบ่งตัวเพิ่มขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ และเกิดการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรมภายในเซลล์ เป็นผลให้มีการสร้างสารแอนติเจน หรือสาร macromolecule อื่นๆ เช่น ฮอร์โมน หรือ เอ็นซัมย์ ที่ไม่เหมือนเซลล์ปกติ แอนติเจนเหล่านี้นอกจากจะพบอยู่ภายในเซลล์และบนผิวของเซลล์แล้ว เซลล์มะเร็งยังสามารถปลดปล่อยสารดังกล่าวออกสู่กระแสเลือด หรือสารคัดหลั่ง (biological fluid)อื่นๆ ได้อีกด้วย ซึ่งสารต่างๆ ที่เกิดจากเซลล์มะเร็งเหล่านี้ รวมเรียกว่าเป็น tumor marker หรือ สารบ่งชี้มะเร็ง สารเหล่านี้สามารถตรวจหาได้จากเลือด หรือ สารคัดหลั่ง เช่น น้ำในช่องท้อง (ascetic fluid) น้ำในช่องปอด (pleural fluid) ของผู้ป่วยรายนั้นๆ ด้วยการใช้วิธีการทางห้องปฏิบัติการที่มีความไวสูงพอ

โดยทั่วไป แอนติเจนหรือสารที่สร้างโดยเซลล์มะเร็งนี้ อาจแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ

1. Tumor-specific antigen (TSA): แอนติเจนเฉพาะกับมะเร็ง พบเฉพาะในเซลล์มะเร็งเท่านั้น ไม่พบในเซลล์ปกติ แต่มักเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการตอบสนองและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ตรวจหาทางห้องปฏิบัติการได้ยากมาก

2. Tumor-associated antigen (TAA): แอนติเจนที่เกี่ยวกับมะเร็ง อาจพบได้ทั้งในเซลล์มะเร็ง และเซลล์ปกติในบางระยะของพัฒนาการ ซึ่งในคนทั่วไป ก็อาจพบได้ เนื่องจากสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor marker) ที่มีการตรวจในทางคลินิกในปัจจุบัน เป็นสารในกลุ่มtumor-associated antigen ทั้งสิ้น ดังนั้นประเด็นสำคัญที่ต้องทราบ คือ Tumor marker ไม่มีความจำเพาะต่อมะเร็ง
ประกันการรักษาโรคร้าย เพื่อสร้างหลักประกันชีวิตในอนาคต ที่นี่


สถิติหญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกปีละ 7 พัน สธ.สั่งเร่งตรวจอาการ

26 .. 2549 - นายพินิจ จารุสมบัติ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดการประชุมเพื่อมอบนโยบายในการคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และผู้เกี่ยวข้องจาก 75 จังหวัด รวมแล้วกว่า 300 คน เข้าร่วมประชุม พร้อมระบุว่าหลักสำคัญในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข “เมืองไทยแข็งแรง” คือ การวิจัยและการพัฒนาเพื่อนำองค์ความรู้มาป้องกันการเจ็บป่วยจากการศึกษา สถิติพบว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย ดังนั้น การป้องกันและการค้นหาผู้ป่วยมะเร็งตั้งแต่เริ่มต้นจึงเป็นหัวหอกสำคัญในการ ลดอัตราการตายได้ ถ้าหากผู้ป่วยเป็นมะเร็งขั้น 3 ขึ้นไป จะเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาคนละ 1 ล้านบาท ซึ่ง สสจ.จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานตามนโยบาย รวมถึงการป้องกันไข้หวัดนก และไข้เลือดออกด้วย
นาย พินิจ กล่าวว่า โครงการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มแรก ถือเป็นโครงการป้องกันหญิงไทยจากมะเร็งปากมดลูก โดยตั้งเป้าว่าจะลดปริมาณผู้เป็นมะเร็งปากมดลูกลงปีละ
7,000 ราย

ทั้งนี้ การตรวจคัดกรองโดยป้ายเยื่อมูกที่ปากมดลูกตรวจด้วยวิธีแป๊ปสเมียร์ เน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 35-60ปี ใช้เวลา 15 วันก็จะรู้ผลตรวจ หากพบความผิดปกติจะทำการผ่าตัดรักษาให้ฟรีด้วย

การตรวจพบมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มต้นมีโอกาสหายสูงถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงมีเป้าหมายการดำเนินการในปี2549 คือ ดำเนินการตรวจหญิงกลุ่มเป้าหมายให้ได้ 800,000 ราย ด้วยการจัดผู้เชี่ยวชาญลงไปตรวจถึงระดับสถานีอนามัย โรงพยาบาลอำเภอ

ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา มีสตรีได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีแป๊ปสเมียร์แล้ว405,756 ราย พบเซลล์ผิดปกติ 3,169 ราย

สร้างหลักประกันการรักษา..คลิ๊ก! ที่นี่

ข้อมูลอ้างอิงจาก :http://www.sko.moph.go.th/content.asp?contentid=5974




Company Logos - Top Logo Design Company Review
Company Logos

ข่าวสาร สำนักงาน คปภ.

Link น่าสนใจ คร๊าบ!
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)
http://www.oic.or.th/index.php
Web DD
วาไรตี้ ดีดีจัง

Company Logos

Link DD for Your's Health

Link DD สาระความรู้
บริการห้องสมุดทางการสุขภาพออนไลน์ จัดทำขึ้นเพื่อนำความรู้สู่ประชาชน และบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ 5
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl

ชมรมหยุดมะเร็ง /www.stop-cancer.org

สำรวจตัวเอง สาระน่ารู้เรื่องสุขภาพ

Good Health

Bangkok Health

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)

วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2551

มาเริ่มการออมกันเถอะครับกับ..20PayLife ...AIA


ตัวอย่างเงินปันผล


โปรดไว้วางใจเราให้เราดูแลคุณ
เพราะโรคร้ายและอุบัติเหตุที่จะนำความเสียหายมาสู่ครอบครัวของเราเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
คุ้มค่า ด้วยความคุ้มครองที่ดีที่สุด

1. ชำระเบี้ยประกันภัย 20 ปี คุ้มครองตลอดชีพ หรือครบอายุ 99 ปี

2. คุ้มครอง แบบ 2 In 1 ทั้งผู้ชำระเบี้ยประกันและผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัย ยังไม่สามารถชำระเบี้ยประกันเอง

3. ทุพพลภาพสิ้นเชิง ถาวร ได้รับยกเว้นเบี้ยประกันภัยหลัก

4. ซื้อสัญญาเพิ่มเติม นอกเหนือจากสัญญาหลัก ครบสัญญาก็ยังสามารถส่งเบี้ยเฉพาะสัญญาเพิ่มเติมได้

5. กรมธรรม์ ที่มีกำหนด ตั้งแต่ 10 ปี สามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายไป หักลดหย่อนภาษีได้ สูงสุด ถึง 100,000 บาท


ความสามารถในการหารายได้เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว คือค่าตัวท่าน
การประกันชีวิต คือ การประกันค่าความสามารถของท่านให้คงอยู่เป็นทรัพย์สินเพื่อคุ้มครองครอบครัวต่อไป


ติดต่อ..ชูศักดิ์ Tel: 0817816950 Email : lifeplan.4you@gmail.com



Company Logos - Top Logo Design Company Review
Company Logos

Web DD
วาไรตี้ ดีดีจัง

วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วางแผนชีวิตกับ การออม

กล่าวกันว่า “ ชีวิตคือการต่อสู้.” แน่นอนครับว่า คนเราเมื่อเกิดมา ทุกๆคนก็เริ่มมีความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการบริโภคทางกายหรือทางใจ เมื่อมีความต้องการ ก็ต้องมีการเสาะแสวงหา ให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการและนั่นจึงเป็นที่มาของคำว่า “ ชีวิตคือการต่อสู้.”

แล้วจะสู้ยังไงให้ ได้มาในสิ่งที่ต้องการล่ะครับ! ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า “ สู้.” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการที่เรต้องไปตี รัน ฟัน แทงกับใคร แต่หมายถึง การวางแผนชีวิต เพื่อให้เราก้าวไปข้างหน้า ในอนาคตอย่างมีแนวทางที่ถูกต้องชัดเจน และให้มั่นคงในแนวทางที่กำหนดไว้ เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เราปรารถนา เพราะฉะนั้น “ การวางแผนชีวิต.” จึงเป็นเรื่องที่สำคัญประการหนึ่งที่เดียว

การวางแผนชีวิต ที่สำคัญและขาดไม่ได้เลย คือ วางแผนสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับชีวิตและครอบครัวคุณเอง คุณจะสร้างรากฐานที่มั่นคงให้ตัวคุณและคนที่คุณรักได้อย่างไร บอกได้เลยครับ! ว่าต้องเริ่มจาก “ การออม.”

ทำไม? ถึงต้อง “ ออม.”

มีข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว เขาบอกไว้อย่างนี้ครับว่า ในคนหนุ่มสาวทุก 100 คน จะพบตัวเองเมื่อย่างก้าวสู่วัยเกษียณอายุว่า 1 คน มีฐานะร่ำรวย, 4 คน มีอิสระทางการเงิน, 5 คน ยังต้องทำงานหนัก, 54 คน ต้องพึ่งพาลูกหลาน และ 36 คน จากไปก่อนวัยอันควร

หากถามคุณ ๆ ว่าอยากเป็นแบบไหนใน 100 คนนี้ ผมเชื่อว่าคำตอบที่ได้รับคงออกมาคล้าย ๆ กันใช่ไหมครับ? เพราะคงไม่มีใครอยากลำบากตอนแก่ และเท่าที่ถามคนแถว ๆ นี้ดู หลายคนเห็นตรงกันว่า แก่ตัวไป ไม่จำเป็นต้องมีฐานะร่ำรวยก็ได้ แต่อย่างน้อยขอเป็น 1 ใน 4 คนที่มีอิสระทางการเงิน ไม่เป็นหนี้เป็นสินใคร เลี้ยงตัวเองได้ก็พอ

หากคุณอยากเป็น 1 ใน 4 หรือ 5 คน จาก 100 คน ที่มีความเป็นอยู่ที่ดีในวัยเกษียณนั้น เป้าหมายอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่!.. เพราะวันนี้ผมมาชวนคุณสร้าง ? กระปุกออมสิน? เพื่อวัยเกษียณกัน เริ่มจากคุณจะต้องรู้คร่าว ๆ ก่อนว่า คุณจะต้องเก็บเงินไว้ก้อนโตเท่าไรสำหรับวัยเกษียณ อย่าลืมว่า ด้วยวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ที่เจริญก้าวหน้า ทำให้อายุเฉลี่ยของคนไทยปัจจุบันยืนยาวขึ้น โดยชายไทยมีอายุเฉลี่ยถึง 74 ปี สำหรับคุณผู้หญิง อายุจะยาวกว่านิดหนึ่ง คือ อยู่ที่ ~ 79 ปี ปัญหาที่ตามมาคือ เราจะเตรียมเงินไว้ให้พอเพียงกับจำนวนปีที่เราจะต้องมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ กันอย่างไรดี

ตามทฤษฎีเค้าว่ากันว่า หากเราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ จะต้องมีเงินไว้ใช้ไม่น้อยกว่า 50% ของเงินเดือนเดือนสุดท้ายที่เราได้รับขณะที่เรายังทำงานอยู่ อย่างเช่นสมมติว่าผู้หญิงคนหนึ่ง ตั้งใจจะเกษียณเมื่ออายุ 60 ปี? โดยมีเงินเดือนเดือนสุดท้ายเท่ากับ 50,000? บาท นั่นแปลว่าหลังเกษียณ เธอต้องมีเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในแต่ละเดือนประมาณ 25,000 บาท เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ด้อยไปกว่าสมัยที่เธอยังทำงานอยู่ หากใช้ค่าอายุเฉลี่ยของเพศหญิง คือ 79 ปี มาคำนวณหาก้อนเงินที่เธอต้องมี เท่ากับเธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกประมาณ 19 ปี? เมื่อลองคำนวณตามหลักมูลค่าเงินปัจจุบัน (present value) โดยใช้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 4% (อันนี้เป็นตัวเลขคร่าว ๆ นะครับ) พบว่า ณ วันที่ผู้หญิงคนนี้เกษียณ เธอจะต้องมีเงินถึง 4 ล้านบาทโดยประมาณครับ

เป็นยังไงครับ คุณได้ลองใช้วิธีเดียวกันนี้ คำนวณก้อนเงินใน ?กระปุกออมสิน? ที่คุณต้องมีแล้วหรือยัง? อยากบอกเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งว่า คุณ ๆ แต่ละคนอาจมีความจำเป็น และความต้องการในชีวิตที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจอยากใช้ชีวิตวัยเกษียณไปกับการท่องเที่ยว บางคนอาจมีโรคประจำตัว สุขภาพไม่แข็งแรง ต้องเผื่อเงินไว้สำหรับค่ารักษาพยาบาลมากหน่อย หรือบางคนอยากมีงานอดิเรกหรือมีกิจกรรมที่ต้องมีค่าใช้จ่ายแตกต่างนอกเหนือ ไปจากสูตร 50% ที่ยกมา ก็ลองปรับตัวเลขกันได้นะคะ สำหรับคุณ ๆ ที่คำนวณออกมาแล้ว ทราบว่าตัวเองจะต้องมีเงินเท่าไร อยากจะถามต่อไปว่า แล้วปัจจุบันคุณมีเงินเก็บตามนั้นหรือยังครับ???????

หากสำรวจดูแล้ว พบว่า ?กระปุกออมสิน? ของคุณยังขาดเงินอยู่อีกมาก ก็ขอแนะนำให้คุณเริ่มทบทวนการเก็บเงินของคุณตั้งแต่วันนี้ โดยมี 5 วิธีที่จะช่วยให้การเก็บเงินเพื่อวัยเกษียณของคุณไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น ได้แก่?

  1. ลดรายจ่ายลง

  2. เพิ่มรายได้

  3. เก็บออมเงินให้มากขึ้น

  4. เกษียณให้ช้าลง ทำงานให้นานขึ้น

  5. หาวิธีออมเงินแบบที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น

ถึงตอนนี้คุณบางคนอาจขอค้านว่า วิธีอื่น ๆ ไม่ติดใจสงสัยเท่าไร แต่วิธีเก็บออมเงินเพิ่มนี่สิ ลำพังรายได้ปัจจุบันยังใช้ไม่พอเลย แล้วจะเอาเงินที่ไหนเหลือมาหยอดกระปุกกันล่ะ? ขอให้คุณมองกลับด้านอย่างนี้ว่า

  1. ให้ตั้งเป้าไว้ก่อนว่าคุณจะต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไร

  2. กันเงินส่วนนั้นแยกออกมาเก็บไว้ โดยเงินส่วนที่เหลือจากเก็บถึงค่อยเป็นเงินที่คุณนำไปใช้จ่าย

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า

เงินออม.” เป็นค่าใช้จ่ายชนิดหนึ่งเหมือนค่าขนมหรือค่าอาหารที่คุณต้อง จ่ายทุกวัน เพราะฉะนั้นก่อนที่ลูกคุณจะออกจากบ้านตอนเช้า ให้หยอดกระปุกก่อน แล้วจึงนำเงินที่เหลือไปใช้ เหมือนกัน หากคุณโตหรือทำงานแล้ว คิดไว้เหมือนกันว่า

เงินออมคือค่าใช้จ่ายเช่น เดียวกับค่ารถเมล์ ค่าโทรศัพท์มือถือ หรือภาษีที่คุณมีภาระต้องจ่ายทุกเดือน สิ่งที่แตกต่างกันคือ เมื่อได้เงินเดือน บิลใบนี้เป็นรายการแรกที่ต้องจ่าย โดยอาจกำหนดว่า อย่างน้อยต้องจ่ายเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้และทำจนกลายเป็นอัตโนมัติ เหมือนที่คุณต้องโดนหักภาษีทุกเดือนโดยต่อรองไม่ได้ แล้วเงินส่วนที่เหลือจึงนำไปวางแผนสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ.”

เท่านี้คุณก็จะเป็นผู้ที่มีเงินออม โดยที่ไม่เกี่ยวว่าคุณจะต้องมีรายได้มากๆ ก่อนจึงจะมีเงินเหลือสำหรับเงินออม และแน่นอนว่าเป็นหนทางแรกสู่ความร่ำรวย
ที่สำคัญ อย่าโง่ บอกว่าเก็บไปเดี๋ยวก็ต้องใช้อยู่ดี หรือตายไปก็เอาเงินไปไม่ได้ เพราะการใช้เงินขณะที่มีเงินออมกับไม่มีเงินออมต่างกันเยอะ ที่สำคัญเงินออมจะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างเงินให้กับตัวคุณสำหรับการนำไปใช้ จ่ายในชีวิตได้โดยที่คุณไม่ต้องตรากตรำทำงานหนัก หรือทำให้คุณซื้อของได้ถูกขึ้น คำสอนที่ว่า มาแต่ตัวก็ไปแต่ตัว หมายถึงให้รู้จักพอ แต่ไม่ใช่มีเท่าไรให้ใช้ให้หมด ( บางส่วนจากหนังสือ Why do we work so hard 'to get rich?' )

ส่วนคุณที่กำลังสงสัยว่าวิธีออมเงินแบบ ได้ผลตอบแทนสูงขึ้นคืออะไร? จริง ๆ แล้วสำหรับทางเลือกต่าง ๆ ในการลงทุน ก็มีตั้งแต่การฝากเงินกับธนาคาร การซื้อทองคำ หรือเครื่องประดับมีค่าจำพวกเพชร พลอย การซื้ออสังหาริมทรัพย์ อย่างบ้าน ที่ดิน หรือคอนโดมิเนียม การทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ซึ่งการออมในหลายๆอย่างก็ต้องศึกษาทำความเข้าใจเป็นอย่างมากและมีความเสี่ยงสูงในหลายๆด้านเช่นกัน

เพราะฉะนั้น! วันนี้ผมขอรับอาสาวางแผนชีวิตให้กับคุณและขอแนะนำโครงการออมที่มีไว้เพื่อประกันอนาคตให้กับคุณและคนที่คุณรักที่เหมาะกับคุณที่สุด

ต้องการวางแผนชีวิต วันนี้ ติดต่อ: The Best of Life Planner
คุณ ชูศักดิ์ พุทธสาร
Tel: 0817816950
Email : lifeplan.4you@gmail.com ด่วน!































Company Logos - Top Logo Design Company Review
Company Logos